The Scenery Resort & Farm

ขับตรงขึ้นไปจากบ้านหอมเทียนจะเจอสามแยกให้เบี่ยงออกไปทางซ้ายแยกภูผาผึ้ง รีสอร์ท ขับตรงไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร เราก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์เป็นที่ที่ทำให้คนรู้จัก สวนผึ้งกันอย่างแพร่หลาย “The Scenery Resort & Farm” รีสอร์ทสวย ที่มีสนามหญ้าเขียวสด ลายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและฝูงแกะสีขาวหลายสิบตัวที่คอยต้อนรับนักท่อง เที่ยวอย่างน่ารัก แน่นอน! กิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือ การให้อาหารแกะรวมถึงการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับน้องแกะนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีมุมสวยๆ ที่ทางรีสอร์ทได้เซ็ทอัพขึ้นเพื่อให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แกะที่นี่จะเป็นพันธุ์ผสมชื่อว่า พันธ์คาทาดิน ซึ่งมีความทนต่อสภาพภูมิอากาศ เสียค่าเข้าชมท่านละ 40 บาท จะได้รับหญ้าเนเปียสำหรับเลี้ยงแกะ 1 กำ แต่ถ้าหากไม่พอก็สามารถซื้อเพิ่มได้ในราคากำละ 20 บาท ด้านหน้าจะเป็นที่ตั้งของร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร เปิดให้บริการทุกวัน : วันจันทร์-ศุกร์ 10.00-18.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 9.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 08-5488-9905 หรือ http://www.sceneryresort.com

พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว :

พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัด ขนอน ตั้งอยู่ที่วัดขนอน ตำบลสร้อยฟ้า ริมแม่น้ำแม่กลอง อยู่ห่างจากตัวอำเภอโพธารามประมาณ 10 กิโลเมตร ลักษณะเป็นเรือนไทย จัดแสดงนิทรรศการหนังใหญ่ ประวัติความเป็นมาของหนังใหญ่และกรรมวิธีการแกะสลักตัวหนังใหญ่ มีตัวหนังจำนวน 313 ตัวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์  ส่วนใหญ่เป็นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ แบ่งเป็นชุด  หนุมานถวายแหวน ชุดสหัสสกุมาร และเผากรุงลงกา ชุดศึกอินทรชิตครั้งที่ 1  เป็นโครงการตามพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงเห็นคุณค่าในการแสดงและศิลปะหนังใหญ่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการละ เล่นชั้นสูง ตัวหนังมีการแกะสลักลวดลาย ใช้วงมโหรีปี่พาทย์เป็นเครื่องดนตรีประกอบ พร้อมกับลีลาของคนเชิดประกอบบทพาทย์และ  บทร้อง  ทรงมีพระราชดำริให้ทางวัดช่วยกันอนุรักษ์ตัวหนังใหญ่ ซึ่งท่านพระครูศรัทธาสุนทร (หลวงปู่กล่อม) อดีตเจ้าอาวาสวัดขนอนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น ผู้สร้างขื้น ด้วยท่านเป็นผู้มีความรู้ทางด้านช่างและประกอบกับในขณะนั้นมีตัวหนังอยู่ บ้างที่วัด ท่านจึงมีความคิดที่จะสร้างตัวหนังใหญ่ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมจึงได้ชักชวน ครูอั๋งผู้เคยเป็นโขนคณะเจ้าเมืองราชบุรี  ช่างจาดและช่างจ๊ะชาวราชบุรี และช่างพ่วงชาวบ้านโป่งมาช่วยกันสร้างตัวหนัง ชุดแรก คือ ชุดหนุมานถวายแหวน ต่อมาได้สร้างเพิ่มอีกรวมเก้าชุด นับเป็นสมบัติของวัดที่ได้ร่วมรักษาสืบทอดกันมา

ทางวัดจึงได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้น นับเป็นวัดเดียวที่มีมหรสพของวัด ตัวหนังและคณะหนังใหญ่ที่สมบูรณ์อยู่ในความอุปถัมภ์ของวัดและยังคงมีการ จัดการแสดงหนังใหญ่สืบทอดต่อมาจนถึงทุกวันนี้ พิพิธภัณฑ์

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ทางวัดได้จัดแสดงเชิดหนังใหญ่ทุกวันเสาร์เวลา 10.00-11.00 น. เพียงรอบเดียว โดยนักเรียนจากโรงเรียนวัดขนอน (สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะในวันธรรมดาควรติดต่อล่วงหน้า โดยจะมีค่าใช้จ่ายรอบละ 2,500 บาท) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เจ้าอาวาสวัดขนอน โทร. 0 3223 3386, 08 1753 1230 โทรสาร 0 3235 4272
การเดินทาง  รถยนต์  ใช้เส้นทางหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษมผ่านนครปฐม สู่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จากนั้นเลี้ยวขวาที่สี่แยกอำเภอบางแพ ไปตามทางหลวงหมายเลข 3090 เข้าสู่อำเภอโพธาราม ข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลอง แล้วเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3089 ประมาณ 3 กิโลเมตร วัดขนอนอยู่ทางขวามือ
รถโดยสารประจำทาง รถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ สายกรุงเทพฯ-โพธาราม มาลงที่ท่ารถโพธาราม แล้วจากท่ารถนั่งรถสองแถวสายบ้านโป่ง-โพธารามมาลงที่หน้าวัดขนอน หรือใช้รถจักรยานยนต์รับจ้าง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว :

เดินทางจากตัวอำเภอสวน ผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮต์  ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวยงาม มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติและสระน้ำกระเบื้องสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ

ค่าอาบน้ำแร่สำหรับบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ คนไทย 30 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท สระน้ำกระเบื้อง คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 50 บาท วันจันทร์-ศุกร์เปิดเวลา 08.00–17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์เปิดเวลา 08.00–18.00 น.

อัตราค่าผ่านประตู 5 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 3232 9025, 0 3271 1086

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว :

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามตลาดน้ำคลองต้นเข็ม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ราว 80 กิโลเมตร ในราวปี พ.ศ. 2409 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองดำเนินสะดวกระยะทางกว่า 32 กิโลเมตร เชื่อมแม่น้ำแม่กลองที่บางนกแขวกกับแม่น้ำท่าจีนที่ประตูน้ำบางยาง และมีคลองซอยเล็ก ๆ มากมาย ทำให้ชาวบ้านในราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร สามารถเดินทางติดต่อกันทางน้ำได้สะดวก

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510 ในภาพของตลาดลอยน้ำที่เต็มไปด้วยเรือพายลำย่อม บรรทุกสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ พ่อค้าแม่ค้าสวมเสื้อผ้าโทนสีเข้มแบบชาวสวน         ใส่หมวกงอบใบลาน พายเรือเร่ขายแลกเปลี่ยนสินค้าในยามที่เส้นทางคมนาคมทางน้ำเป็นหัวใจหลัก ตลาดน้ำดำเนินสะดวก   เริ่มค้าขายตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงประมาณ 12.00 น. ส่วนตลาดน้ำวัดปราสาทสิทธิ์ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่ยังคงวิถีชีวิตเดิม ๆ อยู่มากจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ และจะวายตั้งแต่ก่อน 08.00 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอำเภอดำเนินสะดวก โทร. 0 3224 1023 หรือ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มฟื้นฟูตลาดน้ำดำเนินสะดวก www.tripdamnoen.freetzi.com

ล่องคลองชมตลาดน้ำดำเนินสะดวก
ตลาดน้ำดำเนินสะดวก มี เรือพาย บริการนำเที่ยวพาไปดูสวน การทำน้ำตาลสด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ราคา 300-400 บาท และมีเรือหางยาว บริการนำเที่ยวพาไปคลองดำเนินสะดวก ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลอง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ราคา 600 บาท นั่งได้ประมาณ 8 คน สอบถามข้อมูลได้ที่  ท่าเรือยุวันดา โทร. 0 3224 1392, 08 6668 9471, 08 9161 0909

จิตรกรรมฝาผนัง วัดคงคาราม

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว :

ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองตา คต อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางเหนือ ตามทางหลวงหมายเลข 4 ประมาณ 22 กิโลเมตร และแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3080 อีก 1 กิโลเมตร เป็นวัดมอญ สร้างขึ้นโดยพระยามอญ มีอายุกว่า 200 ปี  แต่เดิมเรียกว่า “วัดกลาง” หรือ “เภี้ยโต้” รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดคงคาราม”  ประกอบด้วยพระอุโบสถ มีเจดีย์ทรงรามัญ 7 องค์รายรอบ  ภายในอุโบสถมีพระประธาน แกนในทำด้วยศิลาแลงและปิดทองฐานชุกชีทำเป็นบัวคว่ำบัวหงาย และภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือละเอียดอ่อน ภาพแต่ละภาพเหมือนถ่ายทอดจากต้นแบบที่มีชีวิตจริง เขียนขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เป็นภาพพุทธประวัติตอนต่าง ๆ ที่หาชมยาก นอกจากนี้ยังมีกุฏิเรือนไทย 9 ห้องสร้างในสมัยธนบุรี  ปัจจุบันจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน รวบรวมวัตถุเก่าแก่ซึ่งเกี่ยวข้องกับท้องถิ่นไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

โดยเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.30 น. หากนักท่องเที่ยวมาเป็นหมู่คณะในวันจันทร์-ศุกร์ควรติดต่อก่อนล่วงหน้า 1 สัปดาห์ อัตราค่าเข้าชม ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติคนละ 10 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 3223 1770

การเดินทาง  รถประจำทาง  จากกรุงเทพฯ นั่งรถที่สถานีขนส่งสายใต้ กรุงเทพฯ-โพธาราม มาลงที่หน้าไปรษณีย์       โพธาราม แล้วนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมาลงที่หน้าวัดคงคาราม